เกี่ยวกับเรา

น้ำพริกลาบปงหลวง

            บ้านปงหลวง ตั้งอยู่ที่ตำบลเสริมขวา อำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปาง วิถีชีวิตชุมชนใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย คนในชุมชนประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก โดยได้มีการรวมกลุ่มของแม่บ้านในชุมชนก่อตั้งเป็นกลุ่มครัวเรือนอาสาบ้านปงหลวง ซึ่งมีแนวคิดที่อยากจะหาอาชีพเสริมและเห็นว่าสมาชิกในกลุ่มได้รับการพัฒนาความรู้การผลิตน้ำพริกลาบและปรับปรุงพัฒนาสูตรจนได้เป็นน้ำพริกลาบสูตรเฉพาะของชุมชน ที่มีเครื่องเทศหลากหลายชนิด มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ของคนลำปาง


            ในปี พ.ศ. 2553 ตำบลเสริมขวา เป็นหนึ่งตำบลโครงการวิถีพอเพียงของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งครัวเรือนที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับทุนสนับสนุน จึงได้มีการรวมกลุ่มสมาชิกจำนวน 30 คน และนำทุนที่ได้รับมาลงทุนจัดตั้งเป็นกลุ่มครัวเรือนอาสาบ้านปงหลวง ทำการผลิตน้ำพริกลาบเพื่อจำหน่ายให้แก่คนในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียง โดยใช้พื้นที่ของศูนย์เด็กเล็กเก่าที่อยู่ในพื้นที่ของวัดปงหลวงเป็นสถานที่ในการรวมกลุ่มดำเนินกิจกรรม สมาชิกในกลุ่มจะทำน้ำพริกลาบในช่วงเวลาว่างหลังจากการทำนา และจะมีการจัดสรรรายได้ในรูปแบบเงินปันผลให้แก่สมาชิกในกลุ่มปีละครั้ง ซึ่งการทำน้ำพริกลาบจะทำกัน 2- 3 ครั้งต่อเดือน ขึ้นอยู่กับยอดการสั่งซื้อ สำหรับการทำน้ำพริกลาบจะใช้เวลาในการผลิตจำนวน 2 วัน วันแรกจะเป็นการเตรียมวัตถุดิบทั้งหมดด้วยการนำมาล้าง ตากแดดให้แห้ง วันที่ 2 จะนำมาบดด้วยเครื่องโม่แล้วนำมาผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน และนำมาบรรจุเพื่อจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภค ภายใต้ตราสินค้า “ปงหลวง” ด้วยกระบวนการผลิตน้ำพริกลาบของกลุ่มที่มีการคั่วน้ำพริกให้แห้ง ทำให้สามารถเก็บได้นาน





            ทั้งนี้ ในพื้นที่บ้านปงหลวงยังมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนในชุมชนให้การเคารพนับถือเป็นอย่างมากและมีประเพณีเลี้ยงดงทุกปี คือ ศาลเจ้าพ่อดงหลวง ตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ของบ้านปงหลวง ซึ่งบริเวณนั่นจะมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นหนาแน่นจำนวนมาก โดยคนในชุมชนเชื่อว่าท่านจะช่วยปกปักรักษาคนในชุมชนตำบลเสริมงามให้ร่มเย็นเป็นสุขและช่วยให้ผู้ที่มากราบไหว้สมหวังในเรื่องของการเดินทางไปต่างประเทศ (ที่มา : อนุสรณ์งานประชุมเพลิงศพพระอธิการศรีทอง ฐิตวํโส และคุณตาชุม ลาดปาละ )


            งานเทศกาลประจำปีของวัดปงหลวง คือ ประเพณีเดือนห้าเป็ง ที่มีการสืบทอดกันมาอย่างยาวนานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นประเพณีที่สำคัญของคนล้านนา โดยจะมีการสรงน้ำพระธาตุเป็นประจำทุกปี และจะมีวัดใกล้เคียงรวมถึงสาธุชนมาร่วมทำบุญเป็นจำนวนมาก ภายในงานจะมีมโหรสพ มีการแห่ครัวตาน (แห่เครื่องไทยทาน) และกิจกรรมต่างๆ มากมาย สำหรับท่านที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมงานประเพณี
            จากการดำเนินงานของกลุ่มอย่างต่อเนื่อง จึงได้จัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนน้ำพริกลาบปงหลวง ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารของชุมชนหรือสอบถามมาที่ แม่แน่งน้อย จันทะวัง ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนน้ำพริกลาบปงหลวง โทร 08 5-7079318 ได้ค่ะ



“น้ำพริกลาบปงหลวง สูตรลับสมุนไพรของคนลำปาง มีรสชาติและกลิ่นหอมเฉพาะตัว คู่ครัวคนล้านนา”




เรื่องเล่า : คุณตาชุม ลาดปาละ , แม่แน่งน้อย จันทะวัง
เรียบเรียง : S.Trongwattanawut, W.Suphan




            น้ำพริกลาบเหนือ ผลิตจากพืชสวนครัวและสมุนไพรพื้นบ้าน ประกอบด้วย พริก กระเทียม กะปิ เกลือ เมล็ดผักชี มะแหลบ มะแขว่น ตะไคร้ ข่า ดีปลี นำมาตากแห้งและคั่วให้สุกแล้วบดละเอียด คลุกเคล้าให้เข้ากัน จะได้รสชาติเผ็ด กลมกล่อม หอมเครื่องสมุนไพร นำมาใช้เป็นเครื่องปรุงรสเมนูต่างๆ ได้หลากหลาย เช่น ลาบหมูหรือลาบเนื้อ แกงอ่อม ยำจิ้นไก่หรือยำไก่ ยำปลาทูใส่วุ้นเส้น ตำจิ้น (จิ้น คือ เนื้อหมูหรือเนื้อสัตว์ต่างๆ) เป็นต้น โดยน้ำพริกลาบของแต่ละจังหวัดในภาคเหนือจะมีส่วนผสมที่แตกต่างกัน ซึ่งจะให้รสชาติและกลิ่นที่มีลักษณะเฉพาะของแต่ละพื้นถิ่นนั้นๆ


            บ้านปงหลวงมีสถานที่สำคัญ คือ วัดปงหลวง เป็นวัดเก่าแก่ตั้งอยู่ที่หมู่ 1 ตำบลเสริมงาม อำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปาง ตั้งขึ้นมาเมื่อใดไม่ได้ปรากฏ แต่สันนิษฐานว่าสร้างมานานมากกว่า 500 ปี มีข้อสังเกตจากที่มีวัดร้างอยู่รอบๆ หลายแห่ง อีกทั้งพระอุโบสถหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ซึ่งสมัยก่อนมีลำน้ำไหลผ่านตัดระหว่างวัดและพระอุโบสถ ตามความเชื่อโบราณท่านว่าสายน้ำที่ไหลผ่านนั้นมักมีคนใช้สัญจรไปมา เมื่อพระสงฆ์จะทำสังฆกรรมอาจจะเป็นอันตรายแก่สังฆกรรมนั้น คนโบราณจึงสร้างพระอุโบสถหันหลังให้ลำน้ำ ซึ่งเป็นทิศตะวันตกพอดี ลักษณะการสร้างพระอุโบสถจึงยึดตามคติโบราณที่ปรากฏ พ่อหลวงอ้าย ศรีสิงห์ เมื่อท่านอายุได้ 95 ปี ได้บอกเล่าว่า แต่เดิมมีเจ้าหลวงองค์หนึ่งได้นำพระบรมสารีริกธาตุบรรทุกหลังช้างจากวัดลำปางหลวงผ่านมาทางนี้ เมื่อมาถึงจุดที่สร้างวัดปัจจุบัน ช้างนอนลงไม่ยอมเดินทางต่อ เมื่อเรื่องทราบถึงเจ้าหลวงท่านจึงตัดสินใจอธิษฐาน และก่อพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ลงตรงที่ช้างนอนแล้วขนานนามว่า "วัดปงช้างนอน” ตามเหตุการณ์และสถานที่ เพราะสถานที่เป็นป่าปง และได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “วัดปงหลวง” โดยคำว่า “หลวง” มาจากชื่อวัดลำปางหลวง